วางแผนประกัน การออม
เราควรเริ่มจากการ “ทำบัญชีรายรับรายจ่าย” เพื่อทำให้เราเหลือเงินออม แล้วนำเงินออมไปทำให้งอกเงยอีกทีนึง สมการเงินออมที่ดีที่สุดก็คือ ตั้งสมการแบบนี้ แปลว่า ต้องเก็บเงินออมให้ตัวเองก่อน เหมือนกับที่รัฐบาลให้หัก ภาษี ณ ที่จ่าย หรือนายจ้างหักค่าประกันสังคม และเงินสำรองเลี้ยงชีพให้เรา เหลือเงินเท่าไรจึงใช้เท่านั้น วิธีการนี้จะมีเงินเก็บออมทุกเดือน ดังคำพูดที่ว่า “หาเงินเก่ง ไม่เท่าเก็บเงินเก่ง” นอกจากนี้เรายังต้องมองหาวิธีการเพิ่มรายได้ให้มีได้หลายทาง และวิธีการลดรายจ่ายที่เกินความจำเป็นลง
การเพิ่มรายได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าใครมีความสามารถอย่างไร หรือจะมีช่องทางในการเพิ่มรายได้อย่างไร โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งใดๆ ในโลกนี้ไม่สามารถได้มาอย่างฟรีๆจะต้องมีต้นทุนของการที่จะได้สิ่งนั้นมาด้วยเช่นกัน ทั้งลงทุนด้านแรงกาย เวลา หรือเงิน แต่สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา และไม่สามารถหารายได้เพิ่มได้ ก็ต้องหันไปหา การลดรายจ่าย
การลดรายจ่าย คือ การฉลาดที่จะใช้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น และไม่ควรกู้ยืมเงินมาใช้ หากจำเป็นต้องกู้ยืมเงินมาใช้ ควรจะคำนวณดอกเบี้ยให้ดี (ห้ามกดเงินสดบัตรเครดิต หรือกู้เงินนอกระบบเด็ดขาด เพราะดอกเบี้ยจะท่วมเงินต้นเอาง่าย)
ยกตัวอย่าง หากเราลดค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันของเรา เราจะสามารถมีเงินเก็บออมได้อย่างมหาศาลในภายภาคหน้า นอกจากนี้แล้ว เราต้องมีการกันเงินไว้ส่วนหนึ่ง เรียกว่า “เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน (Emergency Cash)” ซึ่งประมาณเท่ากับค่าใช้จ่ายของเรา 3-6 เดือน เงินก้อนนี้สำหรับเงินเผื่อตอนเราปัญหาเร่งด่วน เช่น ตกงาน ยอดขายไม่ดี ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน และอื่นๆ เป็นต้น
วางแผนประกัน การลงทุน
ในยุคที่ตัวเลขดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ หรือ เงินฝากประจำ มีอัตราเตี้ยติดดิน ใกล้ๆ 0% ยิ่งเมื่อหักลบกับอัตราเงินเฟ้อแล้ว ติดลบด้วยซ้ำไป การฝากเงินไว้ที่ธนาคารเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเป็นตัวเลือกในการบริหารเงินออมของคุณได้อีกต่อไป
เราจึงจำเป็นต้องหาทางเลือกอื่นๆ ในการสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง โดยเราต้องกำหนด “เป้าหมายในการลงทุน” ให้ชัดเจนก่อน ว่าเพื่ออะไร เพื่อเกษียณอายุ เพื่อลดหย่อนภาษี เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ หรือเพื่อทำกำไรระยะสั้น และอื่นๆ
จากนั้นจึงมาพิจารณาถึง “เงื่อนไข” ความเสี่ยงที่คุณรับได้ว่ามีมากน้อยเพียงใด หรือมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาในการลงทุนหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีว่าทางเลือกในการลงทุนแบบไหนที่จะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด
กำหนด ”ทางเลือกในการลงทุน” ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกในการลงทุนมากมายหลายประเภท ทั้งหุ้นสามัญ พันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม ทองคำอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆอีกมากมาย ทั่งในประเทศ และต่างประเทศ
การลงทุนแต่ละประเภทก็มีรายละเอียดและความซับซ้อนที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึงความเสี่ยง และผลตอบแทน ตลอดจนข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภทการลงทุน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ท่านบรรลุเป้าหมายทางการเงินของท่านเอง